Collagen (คอลลาเจน) คืออะไร
Collagen (คอลลาเจน) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีการรวมตัวของกรดอะมิโนหลายชนิด เป็นโปรตีนเส้นใย หรือพอลิเมอร์ชีวภาพ ที่พบมากที่สุด ในร่างกายมนุษย์เราจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ ทั้งผิวหนัง หลอดเลือด กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก กระดูกอ่อน ข้อต่อ เล็บ ขน และเส้นผม รวมถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกาย เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เซลล์ยึดเกาะกัน เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย
ทำไมเราถึงขาดคอลลาเจนไม่ได้
Collagen (คอลลาเจน) เป็นโปรตีนที่มีสัดส่วนมากที่สุดในร่างกาย เป็นส่วนประกอบหลักสำคัญที่มีมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมด หรือมากกว่า 30% โดยน้ำหนักของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย เป็นเสมือนตัวที่ช่วยเชื่อมเซลล์แต่ละเซลล์เข้าไว้ด้วยกัน หรือกาวธรรมชาติ ที่เชื่อมภายในเซลล์ยึดให้ติดกัน จนทำให้เซลล์มีความแข็งแรง ทำให้ผิวแข็งแรง มีความยืดหยุ่นและเต่งตึง ไม่เพียงแต่เรื่องผิว คอลลลาเจนยังช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดไหลเวียนดี และช่วยเรื่องความแข็งแรงของกระดูกอ่อนและข้อต่อต่างๆ อีกด้วย
หากร่างกายขาด Collagen (คอลลาเจน) จะเกิดอะไรขึ้น?
- เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง ดูมีอายุ
- ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่ตึงกระชับ
- กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพ
- โรคข้อเสื่อม เข่าเสื่อม
- มีอาการปวดตามข้อต่อ
คอลลาเจนเปปไทด์คืออะไร?
คอลลาเจน แบ่งออกเป็น 4 ชนิดตามขนาดโมเลกุล
1. คอลลาเจนเปปไทด์ (collagen peptide) คือการสกัดคอลลาเจนให้อยู่ในรูปของสายกรดอะมิโนที่สั้นขึ้น โดยทั่วไปแล้วคอลลาเจนเปปไทด์จะมีขนาดใหญ่ทำให้ดูดซึมได้ยาก การย่อยสายเปปไทด์ของคอลลาเจนด้วยเทคโนโลยีเช่น hydrolysis จะทำให้โมเลกุลของคอลลาเจนเปปไทด์มีขนาดเล็กลง ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้มากขึ้น
2. คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (collagen tripeptide) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนย่อยจนเหลือกรดอะมิโน 3 ตัวเรียงกัน มีขนาดโมเลกุลเฉลี่ย 500-1000 ดาลตัน มีความสามารถในการดูดซึมได้ในระดับปานกลาง
3. คอลลาเจนไดเปปไทด์ (collagen dipeptide) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยโดยเอนไซม์ จนเหลือกรดอะมิโน 2 ตัวเรียงกัน มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 200 ดาลตัล จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมากกว่าคอลลาเจนทั้ง 2 ชนิดแรก
คอลลาเจนไดเปปไทด์มีขนาดเล็กกว่า 300 ดาลตัน คอลลาเจนไดเปปไทด์จึงมีขนาดเล็กกว่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์ ดังนั้นร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนไดเปปไทด์ได้ดีกว่า
4. ไฮโดรไลซ์ คอลลาเจน (Hydrolyzed Collagen) เป็นคอลลาเจนที่ผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด ที่ยังคงแสดงคุณสมบัติของความเป็นคอลลาเจน ซึ่งขนาดยิ่งเล็กเท่าใดจะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการดูดซึมที่ดียิ่งขึ้น ดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไป 3-4 เท่า
คอลลาเจน เป็นเส้นใยโปรตีนประเภทหนึ่ง ในร่างกายเรามีคอลลาเจนอยู่ประมาณร้อยละ 6 ของน้ำหนักตัว หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดของร่างกาย เป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว กระดูกอ่อนและหลอดเลือด เป็นต้น ในปัจจุบันมีการค้นพบคอลลาเจนมากกว่า 18 ชนิด แต่คอลลาเจนที่พบมากที่สุด 5 ชนิดได้แก่
คอลลาเจนประเภทที่ 1 (type I)
ซึ่งพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็นยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II)
พบมากในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง ทำหน้าที่แตกต่างจากคอลลาเจนประเภทที่ 1 อย่างสิ้นเชิง โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ซึ่ง คอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นคอลลาเจน ที่พบได้ในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว
คอลลาเจนประเภทที่ 3 (type III)
มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
คอลลาเจนประเภทที่ 4 (type IV)
พบในส่วนของชั้นเยื่อบุผิว (epithelium-secreted layer)ได้แก่ เบซัล ลามินา (basal lamina) และชั้นเนื้อประสานที่รองรับเนื้อผิว (basement membrane) เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือดอีกด้วย
คอลลาเจนประเภทที่ 5 (type V) พบในผิวของเซลล์ ผม และรก