ทำความรู้จัก 'โคเอนไซม์ คิวเทน' ให้ลึกซึ้ง
ว่ามันเป็นมากกว่าแค่สารสำคัญในการบำรุงผิวให้สวยเนียน เนื่องจากมันยังเป็นประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย
โคเอนไซม์ คิวเทน หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ยูบิควิโนน เรามักรู้จักกันในส่วนผสมของเครื่องสำอางเพื่อถนอมผิวพรรณ ลดริ้วรอยหรือชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว แต่ในทางการแพทย์แล้ว พบว่า โคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารที่มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างมาก พบได้ในทุกเซลล์ของร่างกายที่มีชีวิต ทำหน้าที่ในการผลิตพลังงานพื้นฐานของเซลล์โดยเฉพาะในอวัยวะที่ต้องการพลังงานสูง เช่น หัวใจ สมอง ตับ ไต กล้ามเนื้อ และยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายอีกด้วย
ผลการศึกษาทางการแพทย์ถึงประโยชน์ของโคเอนไซม์ คิวเทน
ประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น อาการของโรคหัวใจดีขึ้น ความดันโลหิตในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงลดลง
ประโยชน์ต่อสมอง
จากการศึกษาพบว่า ระดับ โคเอนไซม์ คิวเทน ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน มีปริมาณ โคเอนไซม์ คิวเทน ในสมองลดลง เมื่อให้ โคเอนไซม์ คิวเทน แล้ว ช่วยให้อาการต่างๆ ดีขึ้น
ประโยชน์ในการลดผลข้างเคียงของยาลดไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มสแตติน
จากการวิจัยพบว่า ยาลดไขมันโคเลสเตอรอลในเลือดกลุ่มดังกล่าว ทำให้ปริมาณโคเอนไซม์ คิวเทนในร่างกายลดลง นำไปสู่อาการกล้ามเนื้อแขน ขาอ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อ หากขาดรุนแรงจะมีผลกระทบทำให้หัวใจและตับทำงานผิดปกติ ซึ่งผลดังกล่าวจะพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ ผู้ที่ใช้ยาปริมาณสูง ผู้ที่ใช้ยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัวอื่นๆ อยู่ก่อน
ประโยชน์ด้านอื่นของโคเอนไซม์ คิวเทน
นอกจากประโยชน์ที่กล่าวมานั้น โคเอนไซม์ คิวเทน ยังชะลอความเสื่อมของร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น นักกีฬาออกกำลังกายได้นานขึ้น ลดอาการเหนื่อย อ่อนเพลียเรื้อรัง ลดภาวะเหงือกอักเสบ ป้องกันอันตรายที่เกิดจากรังสียูวี และชะลอการเกิดริ้วรอยของผิวเราได้อีกด้วย
โคเอนไซม์คิวเท็นคืออะไร
โคเอนไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) หรือรู้จักกันในนาม คิวเท็น (Q10) มีลักษณะคล้ายวิตามินอีและวิตามินเค ซึ่งละลายได้ในไขมัน พบในทุกเซลล์ของร่างกาย เป็นสารที่ช่วยเหลือการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายหลายชนิด ซึ่งจำเป็นสำหรับการนำวิตามินและเกลือแร่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย ร่างกายสามารถสร้างโคเอนไซม์คิวเท็นส่วนหนึ่งจากกระบวนการสังเคราะห์ไขมันโคเลสเตอรอลที่ตับ อีกส่วนหนึ่งได้รับจากอาหาร เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล เนื้อสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนลา เป็นต้น
โคเอนไซม์คิวเท็นสำคัญอย่างไร
- ช่วยเพิ่มหรือขับออกซิเจน (Oxygen) ให้แก่เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ
- เป็นตัวร่วมในกระบวนการหายใจระดับเซลล์ที่ใช้ออกซิเจน
- เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงานที่เรียกว่า ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็น- - - - พลังงานพื้นฐานที่สร้างขึ้นโดยโมเลกุลของเซลล์เพื่อให้เซลล์ทำหน้าที่ต่างๆได้
- สภาวะของร่างกายมีผลต่อระดับโคเอนไซม์คิวเท็นอย่างไร
โคเอนไซม์คิวเท็นในร่างกายจะลดลงเมื่อมีปัจจัยดังนี้
- อายุ ระดับของโคเอนไซม์คิวเท็นในเนื้อเยื่อจะสูงสุดเมื่ออายุประมาณ 20 ปี หลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดลง
- โรคบางชนิด เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง อาการปวดเค้นหน้าอก กล้ามเนื้อหัวใจตาย ความดันโลหิตสูง โรคพาร์คินสัน และโรคหืด
ใครบ้างที่ควรได้รับการเสริมด้วยโคเอนไซม์คิวเท็น
- ผู้ที่ร่างกายอยู่ในภาวะอารมณ์เครียดและสับสน
- ผู้ที่ทำงานหนักและต้องการรักษาระดับพลังงานในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ
- ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย หรือภูมิคุ้มกันลดลง
- ผู้ที่มีความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่กำลังต้องการพลังงานเพื่อต่อสู้กับโรคหรือเชื้อโรค
- ผู้สูงอายุและนักกีฬา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจของเซลล์แบบใช้ออกซิเจน ทำให้กล้ามเนื้อของนักกีฬาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการล้าของกล้ามเนื้อ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโคเอนไซม์คิวเท็น
1. โคเอนไซม์คิวเท็นกับสุขภาพของหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจโคโรนารี เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะหัวใจล้มเหลวและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของมนุษย์ เกิดจากการสะสมของไขมันโดยตรงบนผนังหลอดเลือด หรือภาวะหลอดเลือดแข็งตัวโคเอนไซม์คิวเท็นมีบทบาทสำคัญมากในการลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัว โดยจำกัดปริมาณของไขมันที่จะไปสะสมบนผนังหลอดเลือด นักวิจัยบางท่านเชื่อว่า การเสริมวิตามินอี (Vitamin E) ร่วมกับ โคเอนไซม์คิวเท็น ให้ผลในการลดความเสี่ยงและเพิ่มการป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตันได้มากกว่า การได้รับเพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า โคเอนไซม์คิวเท็นสามารถช่วยและลดการสะสมของโคเลสเตอรอลในเลือด เพิ่มเอชดีแอล โคเลสเตอรอล (HDL-Cholesterol) ได้ด้วย ผู้ที่มีอาการปวดเค้นหน้าอก (Angina) การเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโคเอนไซม์คิวเท็น สามารถลดอาการปวดเค้นหน้าอกลงได้ และยังมีความสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นด้วย
2. โคเอนไซม์คิวเท็นกับการต้านอนุมูลอิสระ
อนุมูลอิสระเกิดขึ้นได้โดยธรรมชาติในชีวิตประจำวัน ร่างกายผลิตอนุมูลอิสระขึ้นจากหลายสาเหตุ อาทิ กระบวนการอักเสบภายในร่างกาย การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน สิ่งแวดล้อม ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นในร่างกาย แหล่งของอนุมูลอิสระ ได้แก่ มลภาวะ การออกกำลังกาย แสงแดด การสูบบุหรี่ ยาปราบศัตรูพืช รังสีเอ็กซ์ (x-ray) และอาหารทอด เป็นต้น
ผิวหนังของคนเรามีสารต้านออกซิเดชันอยู่จำนวนมาก ได้แก่ วิตามินอี โคเอนไซม์คิวเท็น เป็นต้น แสงแดดมีผลให้ปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระลดลง การมีอายุเพิ่มขึ้นพบว่ามีการสร้างโคเอนไซม์คิวเท็นลดลงเช่นกัน จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยเมื่อมีอายุมากขึ้น โคเอนไซม์คิวเท็นมีบทบาทสำคัญในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาในร่างกายและจากสภาวะภายนอก จึงป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ที่กล้ามเนื้อหัวใจ รวมถึงปกป้องการทำลายดีเอ็นเอ (DNA) ได้ด้วย
สารอาหารสำคัญที่ดูแลสุขภาพหัวใจให้อ่อนเยาว์
แอล-คาร์นิทีน (L-CARNITINE)
ร่างกายของคนเราสังเคราะห์แอล-คาร์นิทีนได้โดยเฉลี่ยมีประมาณ 20-25 กรัมในร่างกาย ซึ่งในจำนวนนี้ 98% พบในกล้ามเนื้อลายและกล้ามเนื้อหัวใจ แสดงให้เห็นว่าแอล-คาร์นิทีน มีความสำคัญมากต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ ร่างกายยังได้รับแอล-คาร์นิทีนจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ปลา นม เนย ไข่ ส่วนอาหารประเภทพืชผักมีแอล-คาร์นิทีนอยู่จำนวนน้อย ยกเว้น แอสพารากัส (Asparagus) อะโวคาโด (Avocados) และเนยถั่ว (Peanut Butter) ซึ่งมีแอล-คาร์นิทีนอยู่จำนวนค่อนข้างมากกว่าพืชอื่นๆ
ทอรีน (TAURINE)
ทอรีนมีบทบาทสำคัญมากในร่างกาย ทอรีนจะไปจับกับน้ำดีและเป็นส่วนหนึ่งของน้ำดี ซึ่งช่วยในการดูดซึมไขมันและวิตามินที่ละลายในไขมัน นอกจากนี้ ทอรีนยังมีคุณประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ ช่วยทำให้สุขภาพของหลอดเลือดหัวใจดีขึ้น ช่วยในการทำงานของเรตินาให้เป็นปกติ พบว่าในเรตินามีปริมาณของทอรีนเป็นส่วนประกอบค่อนข้างสูง ช่วยควบคุมปริมาณน้ำในเซลล์ ช่วยควบคุมการส่งผ่านแคลเซียมอิออนในผนังเซลล์ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐ ออนไลน์