ช่องปากประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ คือ ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้น และเนื้อเยื่อโดยรอบ มะเร็งช่องปากที่เกิดจากอวัยวะดังกล่าว จะมีสาเหตุ การแสดงออกอาการ การดำเนินโรค ระยะโรค การรักษาและความรุนแรงของ โรคเหมือนกัน ซึ่งมะเร็งในช่องปากมักเกิดขึ้นในวัยกลางคน ตั้งแต่อายุ 40-60 ปี
อาการ
มะเร็งมีขนาดเล็ก เกิดก้อนเนื้อขึ้นตามอวัยวะส่วนนั้นๆ ซึ่งอาจจะ ลุกลามเป็นแผลได้ แผลนั้นจะมีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำ เป็นตุ่มๆ ก้อนในปากหรืออาจเป็นแผลลึกเรื้อรังบนเยื่อบุช่องปากและลิ้น แผลจะโตขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะใส่ยาก็รักษาไม่หาย มีฝ้าขาวในช่องปาก จะมีเลือดออกได้ง่าย ติดเชื้อได้ง่าย และส่งกลิ่นเหม็น
ในระยะที่โรคลุกลาม จะมีต่อมน้ำเหลืองขึ้นที่คอ อ้าปากไม่ได้ ต่อมน้ำเหลืองจะมีขนาดใหญ่แต่ไม่เจ็บ และมักอยู่ด้านเดียวกับก้อนเนื้อ จนลุกลามเข้าอวัยวะข้างเคียง เช่น ปอด ตับ และกระดูก
สาเหตุ
- มาจากฟันแหลมคม ฟัน เหงือกเป็นหนอง เกิดการอักเสบเรื้อรัง
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัด การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งช่องปาก 6 เท่า
- การกินหมากพลู เมี่ยง ยาเส้น และอมยาฉุน เป็นประจำ
- ดื่มเหล้า เบียร์ ไวน์ เป็นประจำ
- ผู้ติดเชื้อเอดส์ จะมีภูมิคุ้มกันที่ทำลายเซลล์ที่ผิดปกติลดลง ทำให้ติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดมะเร็งได้
- การอักเสบเรื้อรังชนิดไม่ติดเชื้อของเยื่อบุ
การรักษา
1. การผ่าตัด จะใช้ในระยะที่ 1 และ 2 ที่ก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม ภายหลังจากการผ่าตัดแพทย์จะตรวจชิ้น
เนื้อ ถ้ามีข้อบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง จะรักษาด้วยรังสีรักษา ร่วมกับเคมีบำบัด2. รังสีรักษา อาจเป็นรังสีรักษาอย่างเดียว หรือรังสีร่วมกับการผ่าตัดหรือรังสีร่วมกับเคมีบำบัด หรือทั้ง 3 วิธีผสมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละคน โดยการฉายรังสีจะใช้เวลา 6-7 สัปดาห์ ฉายวันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 5 วัน
3. เคมีบำบัดมักใช้ร่วมกับการผ่าตัดและรังสี แต่ในผู้ป่วยบางรายที่ผ่าตัดและทำรังสีไม่ได้ จะใช้เคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว มักเป็นการรักษาเพื่อประคับประคอง
การป้องกัน
- งดสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า เบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- เลิกเคี้ยวหมากพลู
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และกินผักสดและผลไม้เป็นประจำ
- หมั่นตรวจสุขภาพในช่องปาก หากพบสิ่งผิดปกติรีบปรึกษาแพทย์ทันที
- พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เป็นประจำ
- แปรงฟันให้ถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3-5 นาที และบ้านปากหลังกินอาหารทันที
- สำหรับผู้ที่ใส่ฟันปลอม ล้างฟันปลอมให้สะอาดหลังกินอาหารทุกครั้ง โดยเฉพาะบริเวณตะขอ และถอดออกเวลากลางคืน
- ใช้ฟันทุกซี่เคี้ยวอาหาร ไม่ควรเคี้ยวข้างใดข้างหนึ่งเพื่อให้เหงือกและฟันแข็งแรง
peekaishop.com