มะระขี้นก (Momordica charantia L.)
เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมานานนับพันปี ในเอเซีย อาฟริกา และละตินอเมริกา อายุรเวทใช้ผลมะระรักษาเบาหวาน โรคตับ บรรเทาอาการโรคเก๊าต์และข้ออักเสบ ตำรายาไทยใช้ใบมะระในตำรับยาเขียวลดไข้ รากในตำรับยาแก้โลหิตเป็นพิษ และโรคตับ
งานวิจัยสมุนไพรมะระได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ ค.ศ. 1962 ซึ่ง Lotlika และ Rao ได้ค้นพบชาแรนตินในผลมะระ ที่แสดงฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของสัตว์ทดลอง ในปี 1965 Sucrow ได้พิสูจน์โครงสร้างเคมีของชาแรนติน พบว่าเป็นสารผสมของ sitosteryl- และ 5,25-stigmastadien-3-beta-ol-D-glucosides ในอัตราส่วน 1:1 ปี 1977 Baldwa และคณะ ได้แยกสารคล้ายอินซูลินจากผลมะระและมีฤทธิ์ลดน้ำตาล ในปี 1981 Khana และคณะได้พิสูจน์โครงสร้างของสารคล้ายอินซูลิน พบว่าเป็นโพลีเปปไทด์ที่มีน้ำหนักโมเลกุล 11,000 ดาลตัน และมีกรดอะมิโน 166 residues เรียกสารนี้ว่า โพลีเปปไทด์ พี สารขมกลุ่มคิวเคอร์บิตาซินซึ่งเป็น chemotaxonomic character ของพืชวงศ์ Cucurbitaceae คิวเคอร์บิตาซินในมะระ คือ momordicosides, momordicins, karaviloside K1 และ charantoside มีรายงานว่าสารขมดังกล่าวมีฤทธิ์ลดน้ำตาล
ในมะระขี้นกมีสารหลายชนิดที่ต้านเบาหวาน และมีหลายกลไกที่ออกฤทธิ์ต้านเบาหวาน ได้แก่ เสริมการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ เสริมการเผาผลาญน้ำตาล เพิ่มความไวต่ออินซูลิน เพิ่มความทนต่อกลูโคส (glucose tolerance) นอกจากนี้ยังยับยั้งการหลั่งกลูโคสในลำไส้เล็ก และยับยั้งเอนไซม์กลูโคไซเดส
น้ำคั้นจากผลมะระขี้นกแสดงฤทธิ์ต้านเบาหวานในกระต่ายและหนูขาว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามะระสามารถชะลอความผิดปกติของไต การเกิดต้อกระจก การเสื่อมของเส้นประสาทซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน หรือไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลเลือดให้ปกติ
การศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วยเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน (8 คน) พบว่าผู้ป่วยทนต่อกลูโคสได้ดีขึ้น ลดระดับน้ำตาลขณะอิ่ม และลดความถี่ของการถ่ายปัสสาวะ จึงขอแนะนำผู้ป่วยเบาหวานบริโภคมะระขี้นกเป็นอาหาร หรือในรูปน้ำคั้นเป็นอาหารเสริม เพื่อช่วยรักษาระดับความดันเลือดให้ปกติ และชะลออาการต่างๆที่เป็นผลเสียจากโรคเบาหวานที่เป็นมานาน
มะระขี้นก (สีเขียว) มีคุณค่าทางอาหารเพราะมีวิตามินเอ (2,924 IU) ไนอะซิน (190 มก./100 ก) และมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์และสรรพคุณของมะระขี้นก
ภูมิปัญญาไทยแต่โบราณรู้จักใช้ส่วนต่างๆ ของมะระขี้นกเป็น "ยา" ในการรักษาบรรเทาและป้องกันโรคต่างๆ เช่น ใช้ใบเป็นยาลดไข้ ใช้รากรักษาอาการโลหิตเป็นพิษ ใช้ผลบรรเทาอาการข้ออักเสบและโรคเกาต์ ภายหลังมีผลวิจัยทางการแพทย์ทั้งของไทยและนานาชาติที่อธิบายถึงประโยชน์และสรรพคุณของมะระขี้นกเพิ่มเติมว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่สามารถออกฤทธิ์ต้านเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และรักษาระดับความดันเลือดให้เป็นปกติ
ทั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รายงานผลวิจัยที่ใช้มะระขี้นกทดลองในผู้ป่วยเบาหวาน ด้วยการใช้มะระขี้นกปริมาณ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลานาน 6 เดือน พบว่าไม่มีผลข้างเคียงและไม่เป็นอันตรายต่อตับ อีกทั้งสาร Charantin ในมะระขี้นกช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง ทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นอาหารและยาในการรักษาโรคเบาหวานได้อย่างปลอดภัย
ใบมะระขี้นก : นำใบมะระมาต้มใช้เป็นยาแก้โรคนอนไม่หลับและบรรเทาอาการปวดศีรษะได้ สามารถนำใบมาคั้นเป็นน้ำเพื่อดื่มเป็นยาแก้อาเจียน ช่วยขับลม ช่วยขับพยาธิ นอกจากนี้เมื่อนำใบมะระขี้นกมาตำให้แหลกหยาบๆ มีฤทธิ์ช่วยสมานแผล
ผลมะระขี้นก : นำผลสดมาต้มเป็นยาที่มีสรรพคุณลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย แก้อาการจุดเสียด อาการแน่นท้อง แก้อาการร้อนในกระหายน้ำ หรือจะนำผลไปตากแห้งแล้วนำมาต้มเป็นชาก็ได้เช่นกัน
รากมะระขี้นก : หากมีปัญหาเรื่องท้องผูก ให้นำรากของต้นมะระขี้นกมาต้มแล้วดื่ม เพราะมีฤทธิ์ระบายอ่อนๆ ปรับสมดุลระบบทางเดินอาหารให้ทำงานปกติ บรรเทาอาการบิด ถ่ายเป็นเลือด และบรรเทาโรคริดสีดวงทวาร
ดอกมะระขี้นก : สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือมีปัญหาทางเดินหายใจติดขัด ให้นำดอกมะระขี้นกสดมาต้มให้เป็นน้ำ แล้วดื่มเพื่อแก้อาการคัดจมูก จะช่วยให้หายใจโล่งขึ้น ถือเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน
เมนูเพื่อสุขภาพจากมะระขี้นก
นอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว มะระขี้นกยังได้รับความนิยมในการนำมาทำเครื่องดื่มและปรุงอาหารเป็นเมนูต่างๆ สำหรับเมนูที่ทำได้ง่ายที่สุดคือ "มะระขี้นกปั่น" เพียงแค่หั่นผลมะระขี้นกให้มีขนาดเล็ก ใส่น้ำเชื่อมและเติมเกลือเล็กน้อยเพื่อลดรสขม หลังจากนั้นใส่น้ำแข็ง แล้วนำไปปั่นเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ช่วยแก้อาการร้อนในและขับเสมหะ หากใครที่อยากให้รสขมจางลงแนะนำให้นำมะระขี้นกไปแช่ตู้เย็นหรือต้มให้สุกก่อนนำมาทำเครื่องดื่ม
การเตรียมน้ำคั้นจากผลมะระขี้นก ขนาดที่ใช้ต่อวัน ผลสด 100 ก. นำมาผ่าครึ่ง ใช้ช้อนกาแฟขูดไส้ในและเมล็ดออก หั่นเนื้อผลเป็นชิ้นเล็กขนาดกว้าง 1 ซม. ใส่ในเครื่องปั่นแยกกาก จะได้น้ำมะระประมาณ 40 มล. ดื่มหลังอาหารเช้าหรือเย็น
ส่วนเมนูอาหารอื่นๆ ก็สามารถใช้ผลของมะระขี้นกเป็นส่วนประกอบได้ เช่น เมนูมะระขี้นกผัดไข่, แกงเผ็ดมะระขี้นก, ยอดมะระขี้นกลวกกะทิกุ้งสด, แกงมะระขี้นกยัดไส้, มะระขี้นกผัดไข่ใส่ใบโหระพา เป็นต้น นอกจากอิ่มอร่อยแล้ว ยังได้จานอร่อยที่มีโภชนาการสูง เพียบพร้อมด้วยสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ข้อระวังสำหรับการกินมะระขี้นก
แม้มะระขี้นกจะมีประโยชน์สารพัด แต่ก็มีข้อควรระวังในบางกลุ่มที่ไม่ควรกินมะระขี้นกในปริมาณที่มากเกินไป เช่น สตรีมีครรภ์และเด็กที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากมะระขี้นกมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด อาจทำให้ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอยู่แล้วได้รับอันตรายได้
สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานหรือต้องการกินเพื่อรักษาโรค ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอื่นๆ ให้เหมาะสมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่, การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ, การพักผ่อนที่เพียงพอ
ที่มา : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, หมอชาวบ้าน, กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก