การดูแลผิวพรรณให้สดใส
เพื่อที่จะมีสุขภาพผิวพรรณที่ดี คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิวพรรณ เพื่อจะได้เรียนรู้วิธีการดูแล ผิวพรรณที่ถูกต้องและเหมาะสม เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับคุณ โดยพิจารณาจากสภาพผิวของคุณ เนื่องจากไม่มีผิวใดจะมีสภาพ เหมือนกันอย่างแท้จริง จนสามารถใช้เครื่องสำอางชนิดเดียวกัน โดยทั่วไปแล้วเราสามารถแบ่งผิวพรรณออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ ผิวแห้ง ผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมัน
ชนิดของผิวพรรณและการดูแลผิว
เพื่อที่จะจัดประเภทของผิว ให้คุณล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดที่อ่อนละมุน ซับหน้าให้แห้ง ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที กดกระดาษทิชชูลงบนหน้าผาก จมูก แก้มทั้ง 2 ข้าง และ คาง หากไม่พบคราบน้ำมันปรากฏบนทิชชูดังกล่าว ผิวของคุณ จัดอยู่ในกลุ่มผิวแห้ง ผิวแห้งจะมีความหยาบและมีแนวโน้มที่จะ เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย หากปรากฏคราบน้ำมันบนกระดาษบางชิ้น คุณมีผิวผสม ผิวธรรมดาเป็นผิวที่เรียบเนียน ในขณะที่ผิวมันจะ เป็นผิวที่มีความมันมากกว่าปกติ ผิวมันมีแนวโน้มที่จะเกิดสิว เลี่ยนได้ง่าย ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากผิวดังกล่าวมักมีอาการแพ้ส่วนผสมที่ปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาด รวมไปจนถึงเครื่องสำอางที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เพื่อ ที่จะลดอาการแพ้ ให้คุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของ สารที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเพื่อปกป้องผิวจากอาการแพ้ต่างๆ
ผิวแห้ง
ผิวแห้งจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากมี แนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศแห้งมากกว่าปกติ เพื่อที่จะ ดูแลผิวแห้งให้ชุ่มชื้นและปราศจากริ้วรอย ให้คุณปฏิบัติตามคำ แนะนำดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศ จากสบู่หรือสารซักฟอกที่รุนแรง อย่าใช้สบู่ล้างหน้า เนื่องจาก น้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติที่มีประโยชน์จะถูกชะล้างออกไป จนหมด ยังผลให้ผิวแห้งผาก ระคายเคือง และมีริ้วรอย2. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ในช่วงกลางวัน โดยทาอย่างเบามือ วนเป็นวงกลม โดยวนจากล่างขึ้นบนให้ทั่วทั้งใบหน้า อย่าดึง ตบ หรือนวดอย่างรุนแรง
3. ใช้ไนต์ครีมก่อนนอน ใช้ครีมที่มีกรดอัลฟาไฮดรอกซี่ (Al pha Hydroxy Acids) หรือเอเอชเอ (AHA) เอเอชเอเป็นกรด ธรรมชาติที่ได้จากนม ผลไม้ หรืออ้อย มีคุณสมบัติในการลอก เซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายและแห้งให้หลุดออกไป ในขณะเดียวกันก็ ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวกำเนิดใหม่ให้เนียนนุ่มและ แข็งแรงอยู่เสมอ เหมาะสำหรับผิวที่หมองคล้ำ แห้ง หรือตกสะเก็ด ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
4. ทั้งเอเอชเอและวิตามินซีต่างมีสรรพคุณในการช่วยลบ เลือนริ้วรอยแห่งวัย ให้ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีในช่วง กลางวันและครีมที่มีส่วนผสมของเอเอชเอในช่วงกลางคืน
5.หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะแห้งและหลุดลอกออกเป็นขุย และคัน ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาอาการอักเสบของ แดง ผิวหนังดังกล่าว มีการสันนิษฐานว่าภาวะอักเสบของผิวหนังเป็น ภาวะที่ถูกถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปี อีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคผิวหนังอักเสบคือการใช้เสื้อผ้าที่ทำ จากขนแกะ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง หรือการใช้สารซักฟอกที่รุนแรงจนทำให้ผิวแห้ง ตกสะเก็ด และ มีอาการแพ้ เพื่อรักษาอาการดังกล่าว แพทย์จะสั่งยาที่ช่วยบรรเทาอาการแดง และระคายเคืองของผิวหนัง และอาจแนะนำให้ใช้ เสื้อผ้าที่ทำมาจากฝ้ายแทนขนแกะ
คนจำนวนมากประสบปัญหาผิวแห้งอันเนื่องมาจาก สภาพอากาศ อากาศในช่วงฤดูหนาวจะแห้งกว่าปกติและมีแนวโน้ม ที่จะทำให้ผิวของคุณแห้งไปด้วย ให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อรักษา ความชุ่มชื้นของผิวพรรณ ทำให้ผิวของคุณเนียนนุ่มอยู่เสมอ
7. เพื่อรักษาอาการแห้ง ตกสะเก็ดของผิวพรรณ ให้คุณ ผสมน้ำดอกกุหลาบ 1/2 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาเข้าด้วยกัน แล้วนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้าง ออกด้วยน้ำสะอาด น้ำผึ้งจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวและ บรรเทาอาการแห้งตกสะเก็ด ทำให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นอยู่เสมอ
8. นวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ด้วยน้ำมัน อัลมอนด์หรือน้ำมันมะกอก
9. น้ำแอปเปิล 1/4 ผล ปอกเปลือกออก ขูดเป็นเส้นเล็ก ๆ นำไปแช่ในตู้เย็น นำมาประคบใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยรักษาอาการแห้งของผิว ทำให้ผิว พรรณกระจ่างขึ้น
10. นำครีม 1 ช้อนชา มาปั่นจนขึ้นฟู นำมาทาให้ทั่ว ใบหน้าและลำคอก่อนอาบน้ำ ครีมจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ และทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
ผิวธรรมดา
เป็นผิวที่มักไม่ค่อยมีปัญหาและไม่จำเป็นต้องได้รับการ ดูแลที่ซับซ้อนหรือเป็นพิเศษมากนัก นอกจากนั้นผิวธรรมดายังมี ความทนทานต่อโลชั่นหรือครีมที่วางขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป เป็นอย่างดี การกินอาหารที่ได้สมดุลและการดูแลผิวด้วยวิธีง่าย ๆ ก็นับว่าเพียงพอที่จะทำให้ผิวธรรมดาแลดูอ่อนเยาว์และเนียนนุ่น น่าสัมผัสแล้ว วิธีการดูแลผิวธรรมดาสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
1. ทําความสะอาด ทาโทนเนอร์ ตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ เป็นขั้นตอนการปรนนิบัติผิวอย่างง่ายๆ ที่สามารถทำได้ไม่ยุ่งยาก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดและบำรุงผิวควรทำจากธรรมชาติ
2. แม้ว่าผิวธรรมดาจะเป็นผิวที่ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใดนัก ได้หมายความว่าคุณจะปล่อยปละละเลยผิวของคุณได้แต่ แต่นนมโต อย่างใด หากปราศจากการดูแลผิวที่ถูกวิธี ผิวธรรมดาก็มีโอกาส เป็นริ้วรอย แก่ก่อนวัย และมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน ดังนั้น เพื่อสุขภาพผิวที่ดี ควรดูแลรักษาผิวพรรณอย่างถูกวิธีอยู่เสมอ
3. ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และ วิตามินอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยฟื้นฟูผิวให้สดใสอ่อนนุ่มอยู่เสมอ นอกจากนั้นครีมเหล่านี้ยังช่วยขจัดผลเสียที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย4. แม้ว่าผิวของคุณจะเป็นปกติ แต่คุณยังจำเป็นต้องดูแล ผิวอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากผิวของคุณยังคงได้รับความเสียหาย จากอนุมูลอิสระเฉกเช่นเดียวกับผิวประเภทอื่น ๆ การดูแลผิว อย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันผิวจากการเกิดริ้วรอย สภาพแวดล้อม อนุมูลอิสระ และแสงแดด
ผิวธรรมดาสามารถรักษาได้อย่างง่ายๆ ด้วยการนำกล้วย 1 ผล มาบดให้ละเอียด นำมาพอกหน้าให้ทั่ว โดยเว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น กล้วยจะช่วย ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปอย่างนิ่มนวล ทำให้ผิว แลดูมีชีวิตชีวา หากทำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผิวกระจ่างใส และ เปล่งปลั่ง
ผิวผสม
เป็นผิวที่มีความมันในบางส่วนในขณะที่ผิวส่วนอื่นจะเป็น ผิวแห้งหรือผิวปกติ ผิวมันจะปรากฏอยู่บริเวณทีโซน ซึ่งเป็นผิว บริเวณหน้าผาก จมูก เรื่อยลงมาที่คาง เมื่อใดก็ตามที่คุณล้างหน้า คุณอาจรู้สึกถึงบริเวณผิวหนังบางส่วน ผิวบริเวณนี้จะหมองคล้ำ แห้งผากและหยาบกร้าน ในขณะที่ผิวบริเวณทีโซนจะมันวาว ซึ่ง บริเวณทีโซนนี้มักเกิดปัญหาสิวเสี้ยนอยู่เป็นประจำ ผิวมันจำเป็น ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษ เนื่องจากคุณจําเป็นต้องดูแล ผิวแห้งและผิวมัน ในเวลาเดียวกัน สิ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือ คำแนะนำในการดูแลรักษาผิวผสมให้ดูดีอยู่เสมอ
1. ทำความสะอาดใบหน้าทุกส่วนวันละ 2 ครั้งต่อวัน โดย ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนละมุนเพื่อขจัดสิ่งสกปรก ไขมัน รวมไปจนถึงคราบเครื่องสำอางออกอย่างอ่อนโยน
2. ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำส่วนเกินออกจากใบหน้า ทามอยส์เจอ ไรเซอร์เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ใช้มอยส์เจอไรเซอร์กับ ส่วนที่เป็นผิวแห้ง เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ใต้ผิว ทำให้ผิวอ่อนนุ่น และชุ่มชื้น ในขณะเดียวกันใช้มอยส์เจอไรเซอร์แบบปราศจากไขมัน กับผิวบริเวณทีโซน
3. หากคุณใช้เมคอัพ ให้ใช้เมคอัพแบบปราศจากน้ำมัน หรือควบคุมความมั่นบริเวณทีโซน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีขายอย่าง แพร่หลายตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางทั่วไป มีคุณสมบัติในการ ดูดซับความมันส่วนเกิน
4. หากคุณมีผิวผสม ผิวของคุณจะได้รับประโยชน์จาก ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของเอเอชเอและวิตามินซี เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์ที่มีเอเอชเอจะช่วยปรับสมดุลของผิว ทำให้ ผิวไม่ค่อยมีปัญหาและง่ายต่อการดูแลมากยิ่งขึ้น
5. คนที่มีผิวผสมสามารถดูแลผิวด้วยวิธีง่าย ๆ ที่บ้าน โดย การเก็บน้ำกุหลาบใส่ขวดเล็ก ๆ ไว้ในตู้เย็น นำสำลีชุบน้ำกุหลาบ ดังกล่าวแล้วนำมาประคบใบหน้าให้ทั่ว จะช่วยคืนความรู้สึก สดชื่นให้กับผิวได้เป็นอย่างดี6. ใช้มะละกอสุก 3 ช้อนโต๊ะ บดให้ละเอียด นำไปแช่ในตู้เย็น นำมาทาบนหน้าที่ล้างสะอาดดีแล้ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้ว ล้างออกด้วยน้ำเย็น มะละกอจะช่วยปรับสมดุลผิว ทำให้ผิว กระจ่างใส เปล่งปลั่งมีชีวิตชีวามากขึ้น
ผิวมัน
ผิวมันจะมีความมันวาวเหมือนกระจก และมีแนวโน้มที่จะเกิด ปัญหาสิวอยู่เป็นประจำ แต่หากมองในแง่ดีแล้ว ผิวมันเป็นผิวที่ มีริ้วรอยยากกว่าผิวประเภทอื่น ๆ เนื่องจากผิวมีการผลิตไขมัน ออกมาในปริมาณมาก ทำให้ผิวชุ่มชื้นตลอดเวลา ทำให้โอกาส ที่จะเกิดริ้วรอยเป็นไปได้ยาก วิธีการดูแลผิวมันสามารถทำได้โดย การดูแลปรนนิบัติผิวอย่างง่าย ๆ ควบคู่ไปกับการมีโภชนาการที่สมดุล จะช่วยรักษาผิวให้ดูดีอยู่เสมอ
1. ทําความสะอาดผิวหน้าวันละ 2 ครั้ง ทั้งในตอนเช้าและ ก่อนนอน ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปราศจากสบู่ สารเคมี หรือสารซักฟอกที่รุนแรง จะช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขน และลดการเกิดสิวได้ดีในระดับหนึ่ง
2. หลังจากทำความสะอาดใบหน้าแล้ว ให้ตามด้วยแอสทริง เจนต์ (Astringent) เพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว หลีกเลี่ยง การใช้แอสทรงเจนต์ที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะ ชะล้างความมันออกจากผิวหน้ามากจนเกินไป ทำให้ผิวแห้งผากระคายเคือง และง่ายต่อการติดเชื้อ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความ สะอาดที่มีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติ
3. หากมีสิว อย่าแตะต้องหรือบีบ เพราะจะทำให้เกิด แผลเป็นถาวร ปัจจุบันมีครีมที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดสิวดังกล่าว ให้หายไปวางขายอยู่ตามร้านขายยาและเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง มากมาย เพื่อความปลอดภัย จึงปรึกษาแพทย์โรคผิวหนังถึง ชนิดของยารักษาสิวที่เหมาะกับคุณที่สุด
4.สำหรับคนผิวมัน ควรให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าทำความ สะอาดผิวอย่างล้ำลึกเดือนละครั้งเพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ไขมัน รวม ไปถึงสารเคมีที่ตกค้างอยู่ตามรูขุมขนให้สะอาดหมดจด
5. ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อชะล้างของเสียและสารพิษ ออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณผ่องใส สะอาดเกลี้ยง ดเกลี้ยงเกลา
6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอดหรือ ช็อกโกแลต
7. กินอาหารที่ได้สมดุล รวมไปจนถึงผลไม้และผักใบเขียว ทุกวัน
สําหรับจุดด่างดำที่เกิดจากสิว ให้แต้มโลชั่นคาลาไมล์ลง บนจุดด่างดำดังกล่าวก่อนเข้านอน จุดด่างดำจะค่อย ๆ เลื่อน หายไปในที่สุดล้างหน้าด้วยน้ำเย็นวันละ 3-4 ครั้ง น้ำเย็นนอกจากจะ ทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับคนที่มีผิวมัน ให้หั่นแตงกวาออกเป็นแว่นๆ นำไป ปั่นให้ละเอียด นำไปแช่เย็น นำมาทาบนใบหน้าที่ทำความ สะอาดเรียบร้อยแล้วให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออก ด้วยน้ำเย็น จะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกได้ดี เพื่อให้ได้ผลดี ท่าอาทิตย์ละสองครั้ง