เป็นสารประกอบอินทรีย์ ที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์ ที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โคเอนไซม์ ในกระบวนการเมตาบอลิซึม วิตามินแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ละลายในน้ำ และละลายในน้ำมัน
วิตามินละลายในน้ำ
วิตามินซี 1 (Thiamine) บำรุงระบบประสาท ส่งผลต่อความคิดและการทำงานของสมอง ช่วยระบบการย่อยอาหาร ระบบหัวใจ กล้ามเนื้อ มีคุณสมบัติขับปัสสาวะอย่างอ่อนๆ รับประทานร่วมกับวิตามินบี2, 16 จะยิ่งมีประสิทธิภาพ มากขึ้น
วิตามินB2 (Riboflavin, V.G) ช่วยกระบวนการเจริญเติบโต และสืบพันธุ์ ส่งเสริม ผิวพรรณ เล็บ เส้นผม ลดความเจ็บปวดจากไมเกรน วิตามินบี2 ถูกแสงสว่างทำลายได้โดยง่าย
วิตามิน B3 (Niacin) ร่างกายสามารถสร้างได้เอง จากกรดอะมิโนทริปโตแฟนโดยทำงานร่วมกับวิตามินบี 6 ช่วย สังเคราะห์ฮอร์โมนเพศ ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มการไหลเวียนเลือดและลดความดันโลหิตจําเป็นต่อระบบประสาทและการทํางานของสมอง
วิตามิน B6(Pyridoxin) ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและแอนติบอดี ทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 ช่วยสร้างน้ำย่อย กระเพาะร่วมกับแมกนีเซียม ทำงานร่วมกับกรดโฟลิก เพื่อลดระดับโฮโมซีสเทอีน เสริมความแข็งแรงของระบบ ภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ส่งเสริมการสร้างกรดนิวคลีอิก ลดอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งในเวลากลางคืน ตอาการบาเป็นตะครมือชา ปลายประสาทแขนขาอักเสบ
วิตามินB 12(Cobalamin) ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงลดระดับโฮโมซีสเทอีน ช่วยระบบประสาทแข็งแรง เพิ่มสมาธิ ความจํา และการทรงตัว
ไบโอติน (V.H) สําคัญต่อการเผาผลาญไขมันและโปรตีน ป้องกันและรักษาโรค เกี่ยวกับเส้นผม หนังศีรษะล้าน
เล็บแห้ง เปราะ
โคลีน(Choline) เป็นสารที่สามารถผ่านเข้าสู่ระบบกรองระหว่างเลือดและสมองได้ ช่วยการกระจายตัวของ คอเลสเตอรอลไม่ให้เกาะผนังหลอดเลือดแดง ผนังถุงน้ำดี ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันโดยทำงานร่วมกับอินซิทอล ช่วยในกระบวนการส่งกระแสประสาท โดยเฉพาะสมองส่วนความจำ ทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 กรดโฟลิก แอล-คาร์ทน
กรดโฟลิก(Folic acid, V.M) สำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง การสร้างกรดนิวคลีอิก การแบ่งตัวของเซลล์ ช่วยเผาผลาญโปรตีน ลดระดับโฮโมซิสเทอีน ช่วยเจริญอาหารหากกำลังอ่อนเพลีย
อินอซิทอล (Inositol) รวมตัวกับโคลีนเป็นเลซิทิน เร่งเผาผลาญไขมัน เป็นสารให้พลังงานแก่เซลล์สมอง เช่นเดียวกับโคลีน
วิตามินC(Ascorbic acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซ่อมแซมเซลล์ เนื้อเยื่อ เหงือก ผนังหลอดเลือด สมานบาดแผล กระดูก ฟัน ช่วยการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี ต่อต้านการเกิดสารไนโตรซามีน (สารก่อมะเร็ง) ลดการอุดตันหลอดเลือดดำ ลดความดันเลือด ลดเบาหวานชนิด 2 สำหรับ
โรคธาลัสซีเมีย ไม่แนะนำให้ทานวิตามินC ปริมาณสูง เพื่อป้องกันนิ่วในไต ให้ทานร่วมกับแมกนีเซียม ยา แอสไพรินจะทำให้วิตามิน ถูกขับเร็วขึ้น 3 เท่า รับประทานวันละ 1000 มิลลิกรัม จะช่วยลดระดับฮีสตามินในเลือด ลง 40% วิตามินC จะมีประสิทธิภาพสูงถ้าทำงานร่วมกับ ไบโอฟลาโวนอยด์ แคลเซียม แมกนีเซียม
วิตามินละลายในไขมัน
วิตามิน A (Retinol) ไม่จำเป็นต้องรับประทานทุกวัน ในอาหารจะอยู่ในรูปแคโรทีน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นพิษ จากการสะสมวิตามิน เบต้าแคโรทีน ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด ลดคอเลสเตอรอล กระตุ้นการทำงานระบบภูมิคุ้มกัน โดยเพิ่มจำนวน T-Cell ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ วิตามิน ช่วยป้องกันอาการตาบอดกลางคืน รักษาโรคตา เพิ่ม ประสิทธิภาพการมองเห็น ลดจุดด่างดำที่ผิวหนัง ช่วยรักษาถุงลมโป่งพอง ไทรอยด์เป็นพิษ
วิตามิน E(Tocopherol) เป็นวิตามินที่ถูกเก็บสะสมที่ตับ เนื้อเยื่อไขมัน หัวใจ กล้ามเนื้อ อัณฑะ มดลูก เลือด ต่อม หมวกไต และต่อมใต้สมอง วิตามิน ชนิดแกมมาโทโคฟีรอล มีประสิทธิภาพเพิ่มเอนไซม์ SOD(Superoxidismutase) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคเกี่ยวกับการอักเสบเรื้อรัง อัลไซเมอร์ หัวใจ มะเร็ง
หน้าที่สำคัญ
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม - ระลอการเสื่อมของเซลล์
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามิน A - ป้องกันและละลายลิ่มเลือด
- ป้องกันมะเร็งโดยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้โรคให้เม็ดเลือดขาว T cell ยับยั้งการเจริญของมะเร็งเต้านม
-ป้องกันปอดจากมลพิษทางอากาศโดยทํางานร่วมกับวิตามิน
- ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล LDL
- ลดความเสี่ยงการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต อัลไซเมอร์ ลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับ ปัสสาวะวิตามิน เสริมการทํางานของยาต้านการแข็งตัวของเลือด และลดการดูดซึมวิตามิน จึงแนะนำให้หยุด ทานวิตามิน ก่อนและหลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ พบมากใน จมูกข้าวสาลี น้ำมันพืช ถั่ว ผักใบเขียว ไข่ ผักขม
วิตามิน D (Calciferol) ร่างกายได้รับจากอาหารหรือแสงแดด รังสีUV จะทำปฏิกิริยากับน้ำมันที่ผิวหนัง เกิดวิตามินอ และถูกดูดซึมกลับเข้าสู่ร่างกาย
หน้าที่หลัก
- ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกบาง(Osteopenia) กระดูกพรุน (Osteoporosis)
- เพิ่มการหลั่งอินซูลิน ปรับสมดุลน้ำตาลในเลือด
- สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย T-cell และ B-cell มีงานวิจัยสนับสนุนให้วิตามินอ
เสริมเพื่อต้านโรคมะเร็งต่างๆ เช่นมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ - ช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยลดความเครียด และภาวะซึมเศร้า
- ช่วยนำออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อต่างๆ ขณะออกกำลังกาย ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ พบมากในปลาที่มีไขมันสูง ไข่ นม
วิตามิน K(Menadione) ร่างกายสามารถสร้างได้เองโดย โปรไบโอติคในลำไส้ใหญ่
หน้าที่สำคัญ
- ช่วยกระบวนการสร้างลิ่มเลือด
- ป้องกันกระดูกเปราะบาง
พบมากในผักใบเขียว อัลฟาฟ่า ไข่แดง น้ำมันถั่ว สาหร่ายเคลป์ น้ำมันตับปลา น้ำมันดอกคำฝอย
วิตามิน รางกายต้องการต่อวัน วิตามิน ร่างกายต้องการต่อวัน
A 4,000-5,000 IU D 200-400 IU
เบต้าแคโรทีน 10,000-50,000 IU ไบโอติน 100-300 in.
B1 100-300 มก. กรดโฟลิค 200-1,000 มก.
B2 100-300 มก. โคลีน 500-1,000 มก.
B3 30-75 มก. อินอซิทอล 100-200 มก.
B6 100-300 มก. K 50-100 มก.
B12 50-100 มก. กรดไลโปอิค 50-100 มก.
C 1,000-2,000 มก. Co Q10 30-100 มก.
E 400-1,200 มก.
หมายเหตุ ควรรับประทานวิตามินB1, B2 และ B5 ในปริมาณเท่าๆ กัน เพื่อการทํางานอย่างมีประสิทธิภาพ