มะเร็งริมฝีปาก
มะเร็งริมฝีปากเป็นมะเร็งที่พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ซึ่งผู้ที่เป็นมะเร็งริมฝีปากมักอยู่ในช่วงอายุ 40 ปี ขึ้นไปและคนผิวขาวมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งริมฝีปากมากกว่าคนผิวดำหรือผิวสองสี สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะคนผาวนิยมการอาบแดด นอกจากนี้ผู้ที่ทำกิจกรรมท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน และผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้ไม่น้อยเช่นกัน มะเร็งริมฝีปากที่พบบ่อยมักจะเกิดขึ้นบริเวณริมฝีปากล่างเป็นส่วนมาก
สาเหตุของโรคมะเร็งริมฝีปาก
เป็นแผลพุพองที่ริมฝีปาก ผู้ป่วยส่วนมากมักจะมองข้ามการเป็นแผลที่ริมฝีปาก และไม่ค่อยที่จะไปพบแพทย์ ส่วนมากจะซื้อยามาทาเอง แต่หารู้ไม่ว่าอาการเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งได้
ผู้ที่สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ
ผู้ที่ชอบอาบแดด หรือทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน
ผู้ที่ติดเชื้อ Human Virus (HPV)
อาการและสัญญาณเตือน
- เจ็บปวดที่ริมฝีปาก ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
- ริมฝีปากเป็นก้อนบวมหรือหนาขึ้น หรือที่ปากมีก้อนเหนียว ๆ เหมือนยางหรือกาว ภายในปากมีปื้นสีขาวหรือสีแดง
- ริมฝีปากเปื่อย เป็นแผล แสบคัน
- เลือดออก เจ็บปวด หรือรู้สึกชาที่ริมฝีปาก หรือบริเวณปาก เสียงเปลี่ยน ฟันโยก หรือหลุดโดยไม่สามารถที่จะใส่ใหม่ได้อีก
- ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ เกิดอาการบวมบริเวณขากรรไกร
วิธีป้องกันมะเร็งริมฝีปาก
ทาริมฝีปากด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด หรือสวมหมวกปีกกว้างขณะออกไปทำงานกลางแจ้ง ทาลิปสติกที่ผสมสารป้องกันแสงแดด เพื่อลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งริมฝีปาก
งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในปริมาณที่พอดี
วิธีการดูแลด้วยหลักธรรมชาติบำบัด
รับประทานผักและผลไม้ที่ให้วิตามินซี และวิตามินอี สูง เช่น บร็อกโคลี่ กะหล่ำปลี พริกไทยแดง แคนตาลูป มะม่วง ผักและผลไม้เหล่านี้ให้วิตามินซีและวิตามินอี จากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งริมฝีปากได้อีกทางหนึ่ง
รับประทานมะเขือเทศ ฝรั่งขี้นก แตงโม ส้มโอเทศ เนื่องจากผักและผลไม้เหล่านี้มีสารไลโคปีนจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดการเกิดมะเร็งและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
เลือกรับประทานธัญพืชไม่ขัดสีอย่างข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือแทนข้าวขัดขาว ข้าวกล้องมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์สูง มีวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากแห้ง เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก ลดอาการระคายเคืองจากแสงแดด